การเฟ้นหาหลักฐานการวิจัยทางคลินิกที่มีคุณภาพสูงอาจเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากสำหรับบุคคลากรในวงการสาธารณสุขหลายสาขา แต่กระนั้นก็เป็นส่วนสำคัญต่อการทำงาน ทักษะทางการพยาบาลของแต่ละบุคคลมักแตกต่างกันตามลักษณะงานและตำแหน่งหน้าที่ อาธิเช่น บรรณารักษ์จะชำนาญในการสืบค้นวรรณกรรมดีๆแต่อาจไม่คุ้นเคยกับการใช้กลยุทธ์การสืบค้นตามแบบ PICO พยาบาลส่วนใหญ่เข้าใจหลักการสำคัญของการปฏิบัติงานแต่อาจขาดทักษะการค้นคว้าข้อมูลเพื่อการศึกษา ส่วนนักศึกษาพยาบาลได้เรียนรู้ภาคทฤษฎีตามหลักสูตรในโรงเรียนแต่พวกเขาจะไม่มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ได้เลยหากไม่ลงมือปฎิบัติ
หนึ่งในวิธีการที่สามารถเชื่อมโยงขั้นตอนการทำวิจัยด้านการพยาบาลที่มีประสิทธิภาพได้คือการใช้กลยุทธ์การสืบค้นข้อมูลแบบ PICO ซึ่งเน้นการตั้งคำถามทางคลินิกที่ดีก่อนที่จะเริ่มลงมือทำงานวิจัย การสืบค้นแบบ PICO ยังเป็นตัวช่วยในการจำแนกองค์ประกอบของคำถามที่สำคัญเป็นสี่ส่วน กล่าวคือ คำถามที่ดีต้องสามารถระบุได้ว่า ปัญหาหลักของคนไข้คืออะไร การรักษารูปแบบใดที่คุณจะเลือกใช้กับคนไข้ มีวิธีทางรักษาทางเลือกอื่นไหมที่ควรได้รับการพิจารณา และผลการรักษาใดที่ควรส่งเสริมหรือหลีกเลี่ยง คำถามเหล่านี้จัดย่อเป็นองค์ประกอบสำคัญได้สี่ประการ คือ ผู้ป่วย/ปัญหา ภาวะแทรกซ้อน การเปรียบเทียบ และผลลัพธ์
หนึ่งในวิธีการที่สามารถเชื่อมโยงขั้นตอนการทำวิจัยด้านการพยาบาลที่มีประสิทธิภาพได้คือการใช้กลยุทธ์การสืบค้นข้อมูลแบบ PICO ซึ่งเน้นการตั้งคำถามทางคลินิกที่ดีก่อนที่จะเริ่มลงมือทำงานวิจัย การสืบค้นแบบ PICO ยังเป็นตัวช่วยในการจำแนกองค์ประกอบของคำถามที่สำคัญเป็นสี่ส่วน กล่าวคือ คำถามที่ดีต้องสามารถระบุได้ว่า ปัญหาหลักของคนไข้คืออะไร การรักษารูปแบบใดที่คุณจะเลือกใช้กับคนไข้ มีวิธีทางรักษาทางเลือกอื่นไหมที่ควรได้รับการพิจารณา และผลการรักษาใดที่ควรส่งเสริมหรือหลีกเลี่ยง คำถาม (Yale University’s Cushing/Whitney Medical Library)เหล่านี้จัดย่อเป็นองค์ประกอบสำคัญได้สี่ประการ คือ ผู้ป่วย/ปัญหา ภาวะแทรกซ้อน การเปรียบเทียบ และผลลัพธ์
กระบวนการ PICO เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามและตีความออกมาเพื่อค้นหาแนวทางในการตอบคำถาม และเมื่อสร้างคำถามที่ดีและมีองค์ประกอบที่สมบูรณ์ได้แล้ว นักวิจัยจะมีทิศทางในการสืบค้นข้อมูลเพื่อเป็นหลักฐานสนับสนุนคำถามตามรูปแบบ PICO ที่ตั้งไว้