ในอดีต เจ้าหน้าที่ไอทีของสถาบันต่างๆอาจใช้ประโยชน์จาก single sign on เฉพาะเรื่องที่มีความสำคัญระดับองค์กร แต่หากเรานับในช่วงไม่กี่ปีมานี้ “federated single sign-on” ได้กลายเป็นวิธีการลงชื่อเข้าใช้งานที่เป็นประโยชน์สำหรับทั้งห้องสมุด และผู้ให้บริการป็นอย่างมาก. ในบริบทนี้ federated คือเครือข่ายของ metadata ที่ใช้งานได้ทุกฝ่าย – คือทั้งของห้องสมุด และสำนักพิมพ์ – สิ่งนี้ช่วยให้การเชื่อมต่อทำได้ง่ายขึ้น โดยได้กำจัดข้อกำหนดต่างๆในการแลกเปลี่ยน metadata.
Federated single sign-on ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัย และทันสมัย โดยบเป็นสิ่งที่ต้องการของฝ่ายไอที ช่วยในเรื่องการตั้งค่าการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการห้องสมุดจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดายยิ่งขึ้นกว่าเดิม
การเพิ่มขึ้นของการใช้งานจากนอกสถานที่ ที่เราได้เห็นตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 อาจสร้างความยากลำบากมากขึ้นหากจะพึ่งพาเฉพาะ IP. โดยกล่าวได้ว่าบางสถาบันได้เกิดปัญหา network overload เนื่องจากบริการ Proxy ของพวกเขาต้องรองรับการรับส่งข้อมูลมากกว่าช่วงปกติ ปัญหานี้ใหญ่ทีเดียว และเรียกได้ว่าส่งผลโดยตรงต่อการเข้าใช้งาน ที่แย่ที่สุดคือ อาจจะทำให้ผู้ใช้ไม่อยากใช้งาน หรือบริการของห้องสมุดอีกต่อไปเลย
และนี่คือจุดที่ OpenAthens ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านการลงชื่อเข้าใช้งานของ EBSCO จะเข้ามาช่วยเหลือ. โดยการให้การเข้าถึงแบบรวมศูนย์ Single sign-on ช่วยให้นักวิจัยทำงานของพวกเขาได้ง่านขึ้นเพียงกรอกรหัสประจำตัวของสถาบัน (หมายถึงชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่านจากสถาบัน) เพื่อเข้าถึงผู้ให้บริการเนื้อหา(สำนักพิมพ์)ต่างๆ. ย้ำว่าชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเหล่านี้คือการกรอกข้อมูลประจำวันเพียงครั้งเดียว,ชุดเดียว ซึ่งเป็นข้อมูลประจำที่พวกเขาใช้เป็นประจำอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องลงชื่อใหม่อีกครั้งเมื่ออยากเข้าถึงเนื้อหาจากสำนักพิมพ์อื่นๆเพิ่มเติม
วิธีทำงานแบบนี้คือ การใช้งานห้องสมุดนอกสถานที่คือ “Identity Provider” โดยผ่าน OpenAthens ซึ่งจะรับรองข้อมูลการเข้าใช้งานของนักศึกษา ด้วยสมมติว่าผู้จัดพิมพ์คือ “Service Provider.”
สิ่งที่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ ในขณะที่ Identity Provider กำลังรับรองผู้ใช้ federated access จะไม่ได้อาศัย IP Address หรือตำแหน่งทางกายภาพของผู้ใช้เพื่อรองรับการเข้าถึงเนื้อหาของ Service Provider
กล่าวได้ว่าหากห้องสมุดใช้ OpenAthens, เมื่อนักเรียนสืบค้นด้วย EBSCO Discovery Service ™ (EDS) และพบบทความที่ต้องการ การผสานรวม OpenAthens กับระบบของมหาวิทยาลัยจะแจ้งสำนักพิมพ์นั้นๆโดยอัตโนมัติว่า “ใช่ฉันรู้จักคนนี้! พวกเขาถูกกฎหมาย… คุณสามารถแบ่งปันบทความนี้ให้กับพวกเขาได้โดยตรง”
ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่า เครือข่ายของมหาวิทยาลัยไม่จำเป็นที่จะต้องรับภาระของนักศึกษาหลายพันคน ที่พยายามเข้าถึงบทความต่างๆจากผู้ให้บริการหลายพันราย. นี่เป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากหากเกิด network overload การเข้าถึงต่างๆก็จะไม่สามารถทำได้ตามไปด้วย และนอกจากนี้ การมี SSO จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทรัพยากรได้จากทุกที่ที่พวกเขาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในเครือข่ายหรือนอกเครือข่าย.
นักศึกษาเพียงแค่ต้องลงชื่อเข้าใช้ EDS หรือแอปพลิเคชันต่างๆ โดยใช้ institutional credentials ---โดยนัยยะนั่นคือการเริ่มเซสชัน SSO, และเมื่อนักเรียนใช้ EDS เพื่อสืบค้นบทความ มหาวิทยาลัยจะให้หนังสือเดินทางผ่าน OpenAthens เพื่อเป็นหลักฐาน หลังจากนั้นระบบของสำนักพิมพ์ก็จะทราบและส่งคืนผลลัพธ์สำหรับการค้นหานั้นๆ
ประโยชน์อีกประการหนึ่งของห้องสมุดคือ ผู้ให้บริการการลงชื่อเข้าใช้งาน (Identity Provider) คือผู้ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับจำนวนข้อมูลผู้ใช้ที่แชร์กับสำนักพิมพ์/ ผู้ให้บริการเนื้อหา. โดยพื้นฐานแล้ว Identity Provider สามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของนักศึกษาไว้เป็นส่วนตัว ในขณะที่บอกผู้ให้บริการด้านเนื้อหาว่าสามารถแบ่งปันบทความได้
และไม่ใช่แค่ห้องสมุด และนักศึกษาเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ สิ่งนี้ยังเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับสำนักพิมพ์. การทำให้นักวิจัยเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้นผ่าน EDS, การใช้งานเนื้อหาของสำนักพิพม์ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย. ตัวอย่างเช่นเมื่อ COVID-19 ระบาด American Chemical Society’s publication arm, ACS Publications ได้ เปิดใช้งาน Faderated Access และการลงชื่อเข้าใช้งานเพียงครั้งเดียว (Single sign on) สำหรับสถาบันในสหพันธ์หลายแห่ง และตั้งแต่นั้นมาก็พบว่าการใช้งานมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นมาหลายพันเปอร์เซ็นต์
ในโลกที่การก้าวเดินเข้าสู่ห้องสมุดไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่เคยเป็น ถึงเวลาแล้วที่เราต้องทำให้การเข้าถึงแหล่งข้อมูลออนไลน์เป็นเรื่องง่ายที่สุด
ศึกษาเพิ่มเติมว่า EDS และ OpenAthens สามารถช่วยคุณได้อย่างไร
ศึกษาเพิ่มเติม