การใช้ประโยชน์จากชุดข้อมูลขนาดใหญ่ เป็นสิ่งสำคัญในการแสดงความสำคัญ และการมีตัวตนของห้องสมุด แต่คำถามที่มักตามมาคือ การรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ภายในชุดข้อมูลเหล่านั้นสามารถปรับขนาดและนำมาใช้งานได้มากน้อยเพียงใด?

ด้วยงบประมาณที่ลดลง การลดจำนวนของเจ้าหน้าที่ แต่ความต้องการทรัพยากรสำหรับห้องสมุดวิชาการนั้นมีมากขึ้น ห้องสมุดจึงจำเป็นต้องลงทุนในการวิเคราะห์ข้อมูล ตลอดจนการทำให้มั่นใจว่าพวกเขามีข้อมูลที่ดี อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องนำมาขยายการวิเคราะห์จากวิธีการแบบดั้งเดิม ทั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันระหว่างห้องสมุดและคณะต่างๆ สิ่งนี้หมายถึงการทำความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ใช้ วิธีที่พวกเขาใช้ประโยชน์จากห้องสมุด ห้องสมุดจึงจำเป็นต้องใช้นโยบาย ขั้นตอน และโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมเพื่อจัดการกับความปลอดภัยของข้อมูลขนาดใหญ่ และรักษาระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

ในปัจจุบันเราสามารถกล่างได้ว่า การพิจารณาด้านความปลอดภัยควรที่จะเป็นศูนย์กลาของระบบห้องสมุด เมื่อต้องทำการเชื่อมต่อระบบกับข้อมูลของผู้ใช้ คุณลักษณะหนึ่งที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบคือ ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนได้หรือ PII. PII คือ data point ใดๆก็ตาม ที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ที่อยู่ ฯลฯ. PII ยังสามารถเป็นจุดที่รวมหลายๆข้อมูลร่วมกันได้เช่นกัน เช่น เชื้อชาติ ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ และวันเกิด ซึ่งเมื่อนำมาใช้ร่วมกัน จะสามารถระบุตัวบุคคลได้ น่าแปลกที่คุณลักษณะบางอย่างของ PII นั้นกว้าง และมักจะถูกทิ้งให้มีห้องมีการตีความเพิ่มเติม สถาบันหลักบางแห่งทั่วโลกมีคำจำกัดความที่แตกต่างกันเกี่ยวกับคุณลักษณะเหล่านี้ หากไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจนของแอตทริบิวต์ของ PII

ดาวน์โหลดเอกสารไวท์เปเปอร์เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

การรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ จะกลายเป็นเรื่องท้าทายยิ่งขึ้นทันที เมื่อห้องสมุดใช้ประโยชน์จากข้อมูลจากระบบที่มีหลายวิทยาเขต บ่อยครั้ง บรรณารักษ์ต้องเผชิญกับการเข้าถึง และการต้องรวบรวมข้อมูลจากแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน และต้องรวมข้อมูลด้วยตนเองด้วย แม้ว่าแนวทางนี้จะค่อนข้างยั่งยืนด้วยการวิเคราะห์ห้องสมุดแบบดั้งเดิม แต่สิ่งนี้ก็มีความเสี่ยงใกใย เช่น ข้อมูลสูญหาย ข้อมูลไม่ครบ และที่สำคัญไปกว่านั้นคือความเป็นไปได้ที่ข้อมูลจะรั่วไหลออกไปสู่ภายนอก

การได้มาซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานห้องสมุดในภาพของชุมชนวิชาการ อาจช่วยเปลี่ยนให้ห้องสมุดเป็นผู้ทรงอิทธิพล มีสำคัญ และเป็นศูนย์กลางของตัวชี้วัดทางวิชาการได้ บทความใน ACRL กล่าวไว้ว่าห้องสมุดสามารถเลือกที่จะเป็น “ผู้มีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติอุตสาหกรรมนี้เป็นครั้งที่สี่ ในฐานะผู้ให้บริการข้อมูลส่วนกลาง” หรือจะ “ทำการรักษาโปรไฟล์ของตนในฐานะองค์กรที่ยังคงให้บริการแบบ ‘ดั้งเดิม’ แก่ผู้ใช้งานห้องสมุดต่อไป”

ด้วยการมีจำนวนข้อมูลมหาศาลที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ห้องสมุดจำเป็นต้องพิจารณาวิธีการใช้งานชุดข้อมูลที่ตนเองมี โดยใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ห้องสมุดที่เหมาะสม ดาวน์โหลดเอกสารไวท์เปเปอร์ฟรี เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ในการวิเคราะห์ห้องสมุด และทำความเข้าใจแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด รวมถึงโซลูชันที่สามารถช่วยห้องในการสมุดปรับปรุงแนวทางการวิเคราะห์ และรักษามาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลได้อย่างเหมาะสม